The Project Series คือโปรเจ็คพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งครั้งนี้ได้นำเสนอในเรื่องของการท่องเที่ยวใน 1 วันกับแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใน กทม.และพื้นที่ปริมณฑล โดยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นหรือมีประวัติที่น่าสนใจ
ศาสนสถานทุกศาสนาล้วนมีศิลปะตามความเชื่อของศาสนานั้นๆ ที่สำคัญศาสนสถานยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่ง หากแต่เป็นการท่องเที่ยวที่ได้ชมทั้งศิลปะตามความเชื่อและยังได้อิ่มบุญอีกทอดหนึ่งด้วย
 |
บรรยากาศภายในวัด |
วันนี้เราจะหันไปท่องเที่ยวในแถบกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกบ้าง โดยสาเหตุของการท่องเที่ยวในครั้งนี้ต้องบอกว่า เมื่อนึกย้อนกลับไปวัยเด็กก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยไปเที่ยววัดๆ หนึ่งที่มีทัวร์ชมนรก-สวรรค์ แต่บอกเลยว่าไม่ใช่วัดไผ่โรงวัวชื่อดังแน่นอน ซึ่งการเดินทางในสมัยก่อน (ไม่อยากจะบอกว่ามากกว่า 20 ปีที่แล้ว) ไม่ได้สะดวกสบาย เพราะถนนส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ใจกลางเมืองจะเป็นลูกรังเสียส่วนใหญ่
เมื่อถามท่านพ่อว่า ในอดีตที่เคยไปเที่ยววัดที่มีนรก-สวรรค์ แต่ไม่ใช่วัดไผ่โรงวัวคือที่ไหน เพราะจำได้ว่าสมัยตอนเป็นเด็กเคยไปวัดนี้ แล้วจำได้ว่าต้องเดินลงไปเที่ยวชมนรกแถมเดินได้นิดเดียวก็ต้องกลับ เพราะความน่ากลัว น่าสยองพองขน ที่สำคัญมันค่อนข้างมืด ซึ่งคำตอบที่ได้คือ "จำไม่ได้" แต่ก็ยังพอได้เบาะแสว่าครั้งนั้นไปทางหนองจอก วัดอยู่ใกล้คลองใหญ่ ฉะนั้นจึงล็อคเป้าพื้นที่ว่าน่าจะเป็นวัดในพื้นที่เขตหนองจอกของ กทม.
 |
มุมเครื่องบินจำลองภายในวัด |
จนแล้วจนรอดก็ยังสืบหาวัดนี้ไม่เจอ จนกระทั่งเบาะแสที่ 2 ก็ออกมาจากท่านพ่อว่า "วัดน่าจะชื่อวัดพืชมงคล" จากนั้นก็เริ่มสืบหาวัดที่มีชื่อนี้หรือใกล้เคียงในพื้นที่แถบหนองจอก ซึ่งผลที่ได้คือไม่พบแต่พบวันหนึ่งที่มีชื่อคล้ายกัน อยู่แถวลำลูกกาแต่สามารถไปทางหนองจอกได้ ทำสำคัญมีให้ชมทัวร์นรก-สวรรค์อีกด้วย ซึ่งวัดแห่งนี้มีชื่อว่า "วัดพืชอุดม"
วัดพืชอุดมแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แต่จากการสอบถามในอดีตวัดนี้ผู้คนนิยมเข้ามาทางเขตหนองจอกซึ่งเป็นทางที่สะดวกกว่า ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายคนจะคิดว่าวัดพืชอุดมแห่งนี้อยู่ในเขตหนองจอก กรุงเทพฯ นั่งเอง
 |
ด้านหน้าพระอุโบสถ |
อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วว่าที่วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนสถาน โดยเฉพาะการทัวร์นรก-สวรรค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เกิดความเกรงกลัวต่อบาปและสิ่งที่ทำให้ผิดศีลทั้งหลาย ก่อนอื่่นเมื่อเราจะเริ่มทัวร์นรก-สวรรค์ มีคำแนะนำว่าควรทัวร์สวรรค์ก่อนเพื่อทำให้จิตใจสบายสงบขึ้น โดยชั้นสวรรค์นั้นจะอยู่ในอุโบสถ ซึ่งอุโบสถนั้นถือเป็นสวรรค์ชั้นที่ 1 สำหรับด้านหน้าพระอุโบสถจะมีรูปปูนปั้นทั้งพระและสัตว์ในป่าหิมพานต์มากมาย รวมถึงยังมีการบุญแบบตักบาตรกับรูปปูนปั้นพระที่สามารถหมุนวนได้
 |
ภานในพระอุโบสถ และถือเป็นสวรรค์ชั้นที่ 1 |
 |
สวรรค์ชั้นที่ 6 |
 |
สวรรค์ชั้นที่ 7 |
 |
สวรรค์ชั้น 8 |
 |
สวรรค์ชั้น 9 บนหน้าจั่วพระอุโบสถพอดี |
เอาละ...เมื่อทัวร์ขึ้นสวรรค์เสร็จแล้วคราวนี้ก็ได้เวลาทัวร์ลงนรกบ้าง ต้องบอกโดยส่วนตัวไม่ใช่คนกลัวผีหรือกลัวที่แคบ ที่สำคัญถ้าใครเคยไปวัดไผ่โรงวัวจะบอกเลยว่า ไม่มีความรู้สึกใดๆ เลย เหมือนการไปเดินชมงานศิลปะหุ่นปูนปั้นมากกว่า สำหรับที่นี่มันแตกต่างกันออกไป
 |
น้าผีขอเชิญทำบุญโลงศพจ้า |
สำหรับทางลงไปทัวร์นรกจะอยู่ข้างใต้พระอุโบสถ สังเกตทางลงไปได้ง่ายมาก โดยทางเข้าจะเป็นเหมือนปากยักษ์กำลังอ้า ด้านข้างจะมีรูปปั้นเหล่ายมทูตและดวงวิญญาณที่ถูกจับมา ที่สำคัญในนรกนี้รูปปั้นหลายๆ ตัวสามารถเคลื่อนไหวได้เพียงหยอดเงินทำบุญลงตู้ (แต่ละตู้ต้องใช้เหรียญ 5 บาท ซึ่งมีจุดแลกเหรียญอยู่หลายจุด)
 |
ทางลงทัวร์ชมนรก |
 |
จุดแรกที่มาถึงก็พบกับพระยายมราช |
บอกตรงๆ ว่า ครั้งนี้ทำเอาขนลุกใช้ได้ เรียกได้ว่าหดหู่ใจและขนลุกใช้ได้พอสมควร ส่วนภาพในการทัวร์นรกนั้นคงมีเพียงเท่านี้ เนื่องจากเมื่อเดินเข้าไปจะค่อนข้างมืด ซึ่งจะทำให้ถ่ายรูปได้ลำบาก นอกจากนี้หากใช้แฟลชก็จะได้ภาพไม่สมจริง แต่แนะนำว่าท่าที่มาเที่ยวชมวัดนี้ไม่ควรพลาดการทัวร์นรกอย่างยิ่ง
นอกจากในเรื่องของการทัวร์ชมสวรรค์-นรกแล้ว ที่วัดนี้ยังมีการทำบุญในหลากหลายรูปแบบ แต่ที่ให้ความรู้สึกอยากทำบุญคือการให้อาหารสัตว์ทั้งหลาย โดยวัดนี้ยังการทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือด้วย และสามารถให้อาหารโค-กระบือที่วัดได้ไถ่ชีวิตมาด้วย
ลืมไปอีกอย่าง สำหรับท่านที่มาเที่ยวชมวัดนี้และรักสุนัขเป็นพิเศษ สามารถหาอาหารมาเลี้ยงได้ สุนัขที่นี้ก็ค่อนข้างหิวเหมือนสัตว์ชนิดอื่นๆ เพราะอย่างไรมาเที่ยววัดทั้งทีก็มาร่วมกันทำบุญให้อาหารสัตว์ก็ดีเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น