วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ทริปชิวๆ วันเดียวก็เที่ยวแบบฟรีๆ ได้


เคยหรือปล่าว??? ที่หนึ่งวันหยุดอยากไปเที่ยวนอก กทม. แต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี วันนี้จะพาทุกท่านไปทริปง่ายๆ เล็กๆ แบบวันเดียวเที่ยวสบายใจ ได้ทั้งบรรยากาศ ได้ทั้งอากาศบริสุทธิ์ ได้บุญอีกต่างหาก ซึ่งทริปเล็กๆ ในครั้งนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า "ทริปชิวๆ วันเดียวก็เที่ยวแบบฟรีๆ ได้"


เมื่อเราล็อคเป้าหมายการเดินทางแล้วว่า เราจะไปพัทยา อันดับแรกที่ต้องทำคือการหาเส้นทางที่จะต้องเดินทาง แนะนำว่าควรจะเดินทางบนเส้นทางมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพฯ - ชลบุรี สายใหม่) เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ตรงสู่พัทยาโดยไม่ต้องติดแยกไฟแดงและไม่ต้องเข้าเมือง ซึ่งไหนๆ ก็ต้องใช้เส้นทางนี้ก็ขอแวะพักที่จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ที่นี่อาจไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว แต่ที่นี่ก็เป็นจุดที่หลายคนใช้บริการห้องน้ำและหลายคนก็แวะทานข้าวกัน

ที่นี่จัดได้ว่าเป็นแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดังมากมาย ซึ่งคนที่ผ่านไปมาบนถนนเส้นนี้ มักจะแวะพักเพื่อเปลี่ยนอิริยบถ แวะทานข้าว รวมไปถึงแวะเข้าห้องน้ำ ที่สำคัญหาที่จอดรถยากพอสมควรเลยทีเดียว

จากนั้นเรามุ่งหน้าต่อไปโดยจุดหมายแรกของทริปเล็กๆ ครั้งนี้คือเขาชีจรรย์ ซึ่งแนะนำเส้นทางหมายเลข 331 โดยเลี้ยวซ้ายไปทา
งระยองซักระยะแล้วจะพบแยก 331 ซึ่งปัจจุบันเป็นถนน 2 เลนสวนกัน แต่กำลังดำเนินการขยายถนนเพื่อรองรับการเดินทางสู่สัตหีบและยังเป็นเส้นเลี่ยงเมืองพัทยาไปในตัว (ขอบอกว่า ไม่แน่อนาคตเส้นทางนี้จะกลายเป็นเส้นทางหลักในการท่องเที่ยวภาคตะวันออกก็เป็นไปได้)

ซึ่งพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัยลงมาว่า การแกะสลักองค์พระแบบลายเส้นสามารถสร้างได้ง่าย และควรมีการระเบิดหินให้น้อยที่สุด ซึ่งการปรับความเรียบของหน้าผาต้องสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศของหน้าผาเดิม ไม่ใช่ปรับหน้าผาให้เรียบเป็นแผ่นกระดาษหรือจอหนัง ส่วนบริเวณลานหน้าผาหรือหน้าองค์พระฯ ควรก่อสร้างเป็นสระน้ำหรือสระบัว เพื่อกันไม่ให้ผู้คนที่มากราบไหว้สักการะองค์พระฯ เข้ามาใกล้หน้าผาเกินไป จนอาจจะเกิดอันตรายจากหินล่วงหล่นใส่ได้

โดยได้รับความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีเลเซอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ “เน็คเทค” ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ในการยิงเลเซอร์เข้าสู่หน้าผาจนทำให้เกิดเป็นรูปองค์ โดยดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2539 ซึ่งพระองค์นี้อยู่คู่กับเขาชีจรรย์มาไม่ต่ำกว่า 20 ปี




ต้องบอกก่อนว่า ละแวกบริเวณนั้นอุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่อย่างที่บอกไว้แล้วว่าวันนี้เราจะเน้นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เสียเงิน โดยสถานที่ต่อไปคือวิหารเซียน โดยที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน ซึ่งภายในพื้นที่วิหารเซียนจะถูกตกแต่งด้วยรูปปั้นที่เกี่ยวกับเทพเจ้าของชาวจีนจำนวนมาก โดยมีอาคาร 3 ชั้นตั้งอยู่ภายในโดยแต่ละชั้นล้วนแต่มีรูปปั้นเทพเจ้าของจีนทั้งสิ้น







จากนั้นก่อนกลับบ้านก็ต้องแวะพักกินอาหารที่ร้าน The Sky Gallery ทั้งของคาวของหวานมีหมด ที่สำคัญยังได้รับบรรยากาศทะเลสมกับที่ได้มาเที่ยวพัทยา โดยร้านอยู่ในละแวกแหลมบาลีไฮใกล้ๆ เขาพระตำหนัก เรียกว่าชิวๆ ชีคๆ ตามแบบฉบับของ Journal Mark เลยทีเดียว





ทริปเล็กๆ สำหรับคนอยากพักผ่อนหนีออกจาก กทม. ตามสไตล์ฟรีๆ ไม่เสียเงิน 


แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าจ้าาาาาาา




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น